#มะเร็งเต้านม #มะเร็งเต้า #BreastCancer #การรักษามะเร็ง

ในประเทศไทย มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง ตามข้อมูลจากการศึกษาต่าง ๆ และรายงานของสำนักงานสถิติสุขภาพแห่งชาติ (National Health Statistics Office) และศูนย์มะเร็งแห่งชาติ (National Cancer Institute) มะเร็งเต้านมมักติดอันดับที่ 1 ในการเป็นมะเร็งที่พบได้มากที่สุดในผู้หญิงไทย

สำหรับข้อมูลล่าสุดจาก การสำรวจมะเร็งแห่งชาติของประเทศไทย ปี 2021 หรือ 2022 ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลา:

มะเร็เต้านมจัดอยู่ในลำดับที่ 1 ของมะเร็งที่พบได้ในผู้หญิง

มะเร็งเต้านมมีอัตราการเกิดสูงและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้หญิงไทย

การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม เช่น การทำแมมโมแกรม (Mammogram) และการตรวจเต้านมด้วยตนเอง (Breast Self-Examination) ถือเป็นวิธีสำคัญในการตรวจจับมะเร็งในระยะเริ่มต้นและช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ.

คุณณิชาพร น้องสาวคนเล็กของบ้าน

อดีตเคยป่วยมะเร็งเต้านมพันธุ์ดุ ปี2562

อาการที่ตรวจพบด้วยตัวเอง เริ่มแรกคลำเจอก้อนที่เต้านมไม่ใหญ่มาก และไม่มีอาการปวดใดๆ 

ตอนแรกน้องคิดว่าคงไม่มีอันตรายอะไร เพราะมันไม่มีอาการ จึงปล่อยไว้ประมาณ2เดือน

อาการที่พบชัดเจนคือ ก้อนใหญ่ขึ้นและแข็ง เต้านมตึงมีรอยแตกลาย คัน 

อีกหนึ่งอาทิตย์เริ่มมีน้ำซึมที่บริเวณหัวนม และหัวนมบุ๋มลง และเจ็บบริเวณใต้รักแร้

เข้าพบแพทย์ผลตรวจคือ เป็นมะเร็งเต้านมพันธุ์ดุหรือเชื้อดุ และเข้าสู่ระยะ 2

คือลุกลามเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้

คุณหมอแจ้งว่าถ้าเจอเชื้อดุการรักษาจะยากมาก หมายถึงอาจไม่ตอบสนองต่อเคมีที่ใช้รักษา 

วิธีการรักษามะเร็ง คุณหมอวางแผนโดย

-ให้เคมีบำบัด 8 ครั้ง 

-ฉายแสง 25 ครั้ง

-ให้ยาเฮอร์ทู(มุ่งเป้า) 18 ครั้ง

คุณหมอแจ้งว่าต้องดูผลการรักษาด้วยว่าจะตอบสนองหรือไม่ 

แต่ทางเลือกที่คุณณิชาพรใช้ทานควบคู่กับการรักษามะเร็งเต้านม

คือการทานเซซามินSesaminสูตรเข้มข้นควบคู่กับสูตรออริจินัล(เพื่อช่วยการฟื้นฟูร่างกายที่เร็วขึ้น)

เมื่อทานต่อเนื่องถึง4 เดือน(ควบคู่การให้คีโม,ฉายแสง,และมุ่งเป้า ผลตรวจพบว่าค่ามะเร็งปกติ หลังจากนั้นก็ทานควบคู่การรักษาจนจบครอสที่คุณหมอกำหนดไว้

ไม่มีอาการแพ้เคมีบำบัด และทานอาหารได้ปกติ สุขภาพแข็งแรง ผลตรวจผ่านทุกครั้งที่ไปให้เคมีบำบัด

ปัจจุบัน ใช้ชีวิตปกติมา5 ปีกว่า และยังทานเซซามินต่อเนื่องเพื่อดูแลภูมคุ้มกัน

เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นที่จุดอื่นอีก

อาจารย์อธิบายไว้ดังนี้ 

จากการศึกษาวิจัยในห้องปฏิบัติการทางชีวเคมี ในสัตว์ทดลองและในคน พบกลไกการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของหรือฤทธิ์ทางยา ของสารเซซามินsesamin

สรุปดังนี้
เซซามินSesamin เป็นสารธรรมชาติ ต้านอนุมูลอิสระและภาวะ Oxidative Stress

เซซามินSesamin ต้านการอักเสบ(Anti-inflammation)โดยพบว่าสามารถยับยั้งการขบวนการอักเสบได้ โดยการไปยับยั้งที่เอ็นไซม์ delta-5-desaturase นอกจากนั้นยังสามารถยับยั้งการสร้าง และออกฤทธิ์ของสารสื่ออักเสบ ชนิด Imterleukin-1 Beta และTumor Necrosis Factor-Alpha

เซซามินSesamin ช่วยลดทั้งการสังเคราะห์ และการดูดซึมสารโคเลตเตอรอล

เซซามินSesamin สามารถทำให้เซลล์มะเร็งเข้าสู่กระบวนการ Apoptosis หรือขบวนการทางชีวเคมีที่ทำให้เซลล์มะเร็งตาย

เซซามินSesamin สามารถยับยั้งการลุกลาม หรือขบวนการAngiogenesis ของมะเร็งบางชนิดได้

เซซามินSesamin กระตุ้นให้มีการสร้างสาร Interleukin-2(IL-2)และ InterFeron-Gamma(IFN-Gamma)จากเม็ดเลือดขาว

เซซามินSesamin ช่วยดูแลระดับไขมันในเลือด

เซซามินSesamin ทำหน้าที่ช่วยเผาผลาญกรดไขมันผ่าน beta-Oxsidation

เซซามินSesamin ช่วยการทำงานของวิตามินE ชะลอวัย

เซซามินSesamin ทานได้ต่อเนื่องปลอดภัย

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งเต้านมมีหลายประการ ดังนี้:

ประวัติครอบครัวและพันธุกรรม: การมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมหรือการมีพันธุกรรมที่เปลี่ยนแปลง (เช่น ยีน BRCA1 หรือ BRCA2) เพิ่มความเสี่ยง

ฮอร์โมน: การใช้ฮอร์โมนทดแทนในระยะยาวหรือการมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงสามารถเพิ่มความเสี่ยง

อายุ: อายุที่มากขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก โดยเฉพาะหลังอายุ 55 ปี

การเริ่มมีประจำเดือนเร็วและหมดประจำเดือนช้า: การเริ่มมีประจำเดือนก่อนอายุ 12 ปี หรือหมดประจำเดือนหลังอายุ 55 ปี

การตั้งครรภ์และการให้นมบุตร: ผู้ที่ไม่เคยตั้งครรภ์หรือไม่มีประสบการณ์การให้นมบุตรมีความเสี่ยงสูงกว่า

ประวัติส่วนตัวของมะเร็งเต้านม: การเคยเป็นมะเร็งเต้านมที่ด้านหนึ่งสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อีกด้าน

การใช้แอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่: การบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไปและการสูบบุหรี่สามารถเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้

น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน: โดยเฉพาะในช่วงหลังหมดประจำเดือน

การได้รับรังสี: การได้รับรังสีบริเวณหน้าอกจากการรักษาโรคอื่น ๆ

การตรวจคัดกรองและการใช้ชีวิตอย่างสุขภาพดี เช่น การออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่สมดุลสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้.

สารเซซามิน (Sesamin) เป็นสารสกัดจากงา (Sesame) ที่มีคุณสมบัติที่อาจช่วยในการยับยั้งมะเร็งโดยการทำงานในหลายด้านดังนี้:

การต่อต้านอนุมูลอิสระ: เซซามินSesaminมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง

การลดการอักเสบ: เซซามินSesaminสามารถลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งการอักเสบเรื้อรังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง

การปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน: การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันช่วยให้ร่างกายสามารถตรวจจับและกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น

การยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง: เซซามินSesaminอาจช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งโดยการขัดขวางการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งหรือกระตุ้นกระบวนการตายของเซลล์มะเร็ง (apoptosis)

การปรับสมดุลฮอร์โมน: เซซามินSesaminช่วยในการควบคุมระดับฮอร์โมน เช่น เอสโตรเจน ซึ่งมีบทบาทในบางชนิดของมะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม

ผู้ชาย สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้

แต่กรณีนี้ค่อนข้างพบได้น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิง มะเร็งเต้านมในผู้ชายมักมีสัดส่วนเพียงประมาณ 1% ของกรณีมะเร็งเต้านมทั้งหมด แต่ยังคงเป็นสิ่งที่ควรระวัง

ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ผู้ชายมีความเสี่ยงสูงขึ้นรวมถึง:

ประวัติครอบครัว: มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมหรือยีน BRCA2
โรคพันธุกรรม: เช่น กลุ่มอาการ Klinefelter syndrome
การสัมผัสกับฮอร์โมน: ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงผิดปกติ
อาการของมะเร็งเต้านมในผู้ชายรวมถึงการมีเนื้องอกที่เต้านม, การเปลี่ยนแปลงในรูปร่างของเต้านม, หรือมีการเจ็บปวดที่บริเวณเต้านม หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

บทบาทของเซซามิน(Sesamin)กับการยับยั้งเซลล์มะเร็ง

เซซามิน (Sesamin) กับบทบาทในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง
เซซามิน (Sesamin) คือสารสกัดสำคัญที่สกัดจากงาดำ ซึ่งมีการศึกษาวิจัยถึงคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน และที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ บทบาทของเซซามินSesaminในการส่งผลต่อเซลล์มะเร็ง โดยมีข้อมูลจากการศึกษาทางห้องปฏิบัติการ (in vitro) และระดับโมเลกุล ดังนี้:

1. ยับยั้งการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Anti-angiogenesis)

เซลล์มะเร็งมีความสามารถในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นมา เพื่อส่งเลือดและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงก้อนมะเร็ง ทำให้สามารถเติบโตและกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว

จากการทดลองในหลอดทดลองพบว่า เซซามินSesaminมีฤทธิ์ในการยับยั้งกระบวนการสร้างเส้นเลือดใหม่ (angiogenesis) ซึ่งมีผลให้ก้อนมะเร็งขาดแหล่งพลังงาน และไม่สามารถเติบโตต่อได้

2. กระตุ้นภูมิคุ้มกันผ่านสาร IL-2

เซซามินSesaminมีฤทธิ์กระตุ้นให้ร่างกายสร้าง Interleukin-2 (IL-2) ซึ่งเป็นสารภูมิคุ้มกันที่มีความสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว (T-cells และ NK cells)

IL-2 ได้รับการยอมรับในทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาว่าเป็นหนึ่งในสารชีวภาพที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งบางชนิด

เซซามินSesaminจึงถือว่ามีบทบาทในการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสามารถควบคุมและทำลายเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น


3. กระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็ง (Apoptosis)

โดยปกติ เซลล์ในร่างกายจะมี โปรแกรมการตาย ตามธรรมชาติ (Programmed Cell Death) เพื่อควบคุมจำนวนเซลล์ในร่างกาย แต่ เซลล์มะเร็งสามารถหลีกเลี่ยงกระบวนการนี้ได้ ทำให้เจริญเติบโตอย่างไม่สิ้นสุด


มีการค้นพบว่า เซซามินSesaminสามารถกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเข้าสู่กระบวนการ Apoptosis หรือการตายของเซลล์อย่างมีแบบแผน ได้ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยควบคุมการลุกลามของมะเร็ง

สรุป:

จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในระดับห้องทดลอง เซซามินSesaminมีศักยภาพในการ ต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ผ่าน 3 กลไกหลัก ได้แก่

1.การตัดเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงก้อนมะเร็ง

2.การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น

3.การกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตายตามธรรมชาติ

อ่านงานวิจัยรักษามะเร็ง คลิก