สำหรับผู้หญิงเราทุกคน เมื่อเราอายุย่างเข้าเลข 35+ สัญญาณความเสื่อมของร่างกายก็เริ่มมาเยือนแบบเงียบๆ

หนึ่งในนั้นคือ "มวลกระดูก" ที่เริ่มลดลงเร็วกว่าการสร้างขึ้นใหม่

ทำไม....ถึงเป็นเช่นนั้น??

การสลายเพิ่มขึ้น: อายุเพิ่มขึ้นร่างกายเริ่มสลายกระดูกเก่ามากกว่าการสร้างกระดูกขึ้นมาใหม่

ฮอร์โมน: โดยเฉพาะเมื่อเข้าใกล้สู่วัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยเก็บแคลเซียมไว้ในกระดูก

จะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มวลกระดูกลดฮวบไวมากจนน่าตกใจ

พฤติกรรม: การดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือการขาดการออกกำลังกาย ก็เร่งให้กระดูกบางเร็วขึ้น

ภัยเงียบที่น่ากลัว:ภาวะ "กระดูกบาง" (Osteopenia) มักไม่แสดงอาการให้เอะใจ จนกว่าจะกลายเป็น "กระดูกพรุน" (Osteoporosis) ซึ่งถ้าเราอยู่ในภาวะกระดูกที่เปราะบางมาก แค่ไอ จาม หรือล้มเบาๆ ก็อาจทำให้กระดูกหักได้

โดยเฉพาะบริเวณสะโพก กระดูกสันหลัง หรือข้อมือ

คุณกำลังเสี่ยงอยู่ไหม? ถ้าคุณมีอาการเริ่มปวดหลัง ปวดที่เอว หรือรู้สึกว่าส่วนสูงลดลง

นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนเริ่มต้นว่ามวลกระดูกของคุณกำลังลดลงแล้ว



หลายคนคิดว่า "กระดูกบางก็แค่กินแคลเซียม" ก็พอ แต่ความจริงคือ...

การกินแคลเซียมทั่วไป อาจไม่ได้ผลอย่างที่คิด!

ปัญหาการดูดซึม: อย่างเช่นแคลเซียมบางชนิด (เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต) ร่างกายดูดซึมได้น้อย

และอาจจะต้องอาศัยกรดในกระเพาะอาหารเป็นตัวช่วย

ปัญหาผลข้างเคียง: เจอบ่อยคือหลายคนเจอปัญหาท้องผูก ท้องอืด หรือระคายเคืองกระเพาะอาหาร

ปัญหา "ส่งผิดที่": นี่คือเรื่องที่สำคัญที่สุด! แคลเซียมที่ร่างกายดูดซึมเข้าไป

อาจไม่ได้ไปที่กระดูกโดยตรง แต่อาจไปเกาะตามหลอดเลือดหรืออวัยวะอื่นๆ ซึ่งเป็นอันตราย

ทางออกที่ถูกต้อง คือ "การจัดการแคลเซียม" อย่างมีกลยุทธ์:

เลือกแคลเซียมที่ดูดซึมง่าย: เลือกรูปแบบที่ร่างกายนำไปใช้ได้ดี ไม่ตกค้าง

ต้องมี "ตัวนำพา"

เช่น วิตามิน D3: ช่วย "ดึง" แคลเซียมจากลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด

วิตามิน K2: ทำหน้าที่เป็น "เนวิเกเตอร์" นำแคลเซียมจากกระแสเลือด "ส่งตรง" ไปที่กระดูก

และป้องกันไม่ให้แคลเซียมไปเกาะที่หลอดเลือด ลดความเสี่ยง

ดูแล "ฐานราก": ลำไส้ต้องแข็งแรง (Probiotics) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมแร่ธาตุต่างๆ

NEW Calviva (แคลวิว่า) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนวัตกรรมจาก Aiyara ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหา

ของผู้หญิงวัย 35+ และผู้ชายก็ทานได้

ทำไม Calviva(แคลเซียม) ถึงแตกต่าง?

1. แคลเซียมจาก "ผงกระดูกปลาทูน่า" (Tuna Bone)

ซึ่งเป็นแคลเซียมจากธรรมชาติ ที่มีโครงสร้าง "ไฮดรอกซีแอปาไทต์" (Hydroxyapatite)

ซึ่งใกล้เคียงกับโครงสร้างกระดูกของมนุษย์มากที่สุด

ผลลัพธ์: ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูดซึมได้ดี ไม่ทำให้ท้องผูก หรือระคายเคืองกระเพาะ

2. ทำงานเป็นทีม "ตรงจุด" ด้วย D3, K2 และแมกนีเซียม

Calviva ไม่ได้มีแค่แคลเซียม แต่มี "ทีมเวิร์ค" ที่สมบูรณ์

วิตามิน D3: ช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่เลือด

วิตามิน K2: นำแคลเซียมจากเลือด "ส่งตรง" เข้าสู่กระดูกเรา

แมกนีเซียม: ช่วยปรับสมดุลแคลเซียมในกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงและยืดหยุ่น

3. เสริมเกราะด้วย "โพรไบโอติกส์" (Probiotics)

คัดสรรเป็นอย่างดี 3 สายพันธุ์เฉพาะ (Lactobacillus reuteri, L. plantarum, L. paracasei)

ช่วยปรับสมดุลลำไส้ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมแร่ธาตุ

ช่วยสนับสนุนการสังเคราะห์วิตามิน K2 ในร่างกายอีกด้วย

4. มี "งานวิจัย" รองรับ

Calviva ผ่านการศึกษาทางคลินิก โดยคณะแพทยศาสตร์และคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 ในกลุ่มสตรีวัยหมดประจำเดือน 48 คน ต่อเนื่อง 6 เดือน พบว่า:

ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว (Lumbar spine) อย่างมีนัยสำคัญ

เพิ่มระดับวิตามิน D ในเลือด

ปลอดภัย ไม่ทำให้ท้องผูก

Calviva จึงเป็นทางเลือกที่ "ครบวงจร" สำหรับผู้หญิงวัย 35+ ที่ต้องการดูแลกระดูกอย่างจริงจัง

ไม่ใช่แค่เติม แต่คือการ "ดูดซึมตรงจุด" และ "ปกป้อง" หลอดเลือดไปพร้อมกัน